AI camera คืออะไร

AI camera คืออะไร

AI camera คืออะไร AI เป็นคำศัพท์ใหม่ในการถ่ายภาพ แต่ machine learning เป็นโครงข่ายประสาทเทียม และการถ่ายภาพด้วยคอมพิวเตอร์นั้น สามารถช่วยให้เราได้ภาพถ่ายที่ดีขึ้นได้อย่างไร

Artificial intelligence (AI) มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง แม้แต่ซอฟต์แวร์ในโทรศัพท์ที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งจะใช้ AI ในการตัดสินใจ ในรูปแบบของ Photoshop Camera ของ Adobe

โดยใช้ AI เพื่อระบุวัตถุ และฉากในรูปภาพ และแนะนำ ‘เลนส์’ (เอฟเฟกต์ดิจิทัล) สำหรับเอฟเฟกต์การ์ตูน และความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งจะอยู่ในโหมด ‘อัตโนมัติ’ สามารถถเปิดใช้งานเป็น ‘bokeh’

รวมถึงการทำภาพเบลอ และแม้กระทั่งเพิ่มประสิทธิภาพในโหมดกลางคืน ซึ่งจะเห็นว่า AI สามารถทำให้รูปภาพของเราออกมาได้อย่างมืออาชีพเลยก็ว่าได้

AI คืออะไร

AI เป็นประเภทของวิทยาการคอมพิวเตอร์ ที่ตรวจสอบว่า เราสามารถสอนคอมพิวเตอร์ให้คิด หรืออย่างน้อยก็เรียนรู้

แต่โดยทั่วไปแล้ว จะแบ่งออกเป็นกลุ่มย่อยของเทคโนโลยี ที่พยายามเลียนแบบสิ่งที่มนุษย์ทำ เช่น การรู้จำคำพูด การเขียนตามคำบอกเสียงเป็นข้อความ การจดจำภาพ การจดจำรูปแบบ และการสแกนใบหน้า เป็นต้น

และยังมีคำศัพท์มากมายเ ที่กี่ยวกับหัวข้อนี้ คือ AI , deep learning , machine learning , computer vision และ neural network ล้วนเกี่ยวพันกันในสาขาเทคโนโลยีใหม่นี้

แต่ AI เกี่ยวข้องกับกล้องอย่างไร? ซึ่งการถ่ายภาพด้วยคอมพิวเตอร์ และการแก้ไขภาพที่ช่วยประหยัดเวลานั่นเอง และแม้แต่การเปิดใช้งานด้วยเสียง AI กำลังกลายเป็นคำที่ใช้มากเกินไปในโลกแห่งการถ่ายภาพอย่างรวดเร็ว

และตอนนี้มันใช้กับกล้องสมาร์ทโฟนเป็นส่วนใหญ่ แต่อัลกอริธึมที่น่าสนใจ และซอฟต์แวร์อัตโนมัติระดับสูงสุด ที่เทคโนโลยีอนุญาตนั้น

อาจยังไม่ถึงเวลาที่จะเลิกใช้กล้อง DSLR แต่ดูเหมือนว่า AI จะเข้ามาเปลี่ยนวิธีการถ่ายภาพของเรา และอีกไม่นาน ก็จะสามารถดูแลแก้ไข และดูแลไลบรารีภาพถ่ายที่มีอยู่ของเราได้เช่นกัน

การถ่ายภาพ AI หรือ AI photography เหมาะสมกับใคร

เหมาะสมกับทุกคน โดยส่วนใหญ่แล้ว จะเกี่ยวกับการทำให้การถ่ายภาพที่ง่ายขึ้น และสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น ทำให้เอฟเฟกต์ และความสามารถของการถ่ายภาพขั้นสูงเข้าถึงได้ สำหรับผู้คนจำนวนมากขึ้น

AI camera คืออะไร

กล้อง AI หรือ AI cameraคืออะไร

โดย กล้อง AI หรือ AI camera จะเกี่ยวกับเรียนรู้ ที่เกี่ยวกับการตั้งค่า และการประมวลผลภาพ “สมาร์ทโฟนที่ติดตั้งโปรเซสเซอร์ AI ที่มีประสิทธิภาพ สามารถจดจำ หรือโฟกัสสิ่งที่อยู่ข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว และโดยอัตโนมัติ

รวมทั้งแยกความแตกต่างระหว่างวัตถุที่อยู่เบื้องหน้า และพื้นหลังโดยอัตโนมัติ และกล้อง AI สามารถผสมผสานภาพ HDR ในแสงจ้าได้โดยอัตโนมัติ

สลับไปใช้โหมดถ่ายภาพหลายภาพในที่แสงน้อย และใช้ความมหัศจรรย์ของการถ่ายภาพด้วยคอมพิวเตอร์ เพื่อสร้างเอฟเฟกต์การซูมแบบไม่มีขั้นบันไดด้วยโมดูลกล้องสองตัว หรือมากกว่า

ซอฟต์แวร์ AI ในสมาร์ทโฟน

AI เป็นส่วนใหญ่เกี่ยวกับซอฟต์แวร์ประเภทใหม่ ในขั้นต้น เพื่อใช้แทนเลนส์ซูมของสมาร์ทโฟน ซึ่งซอฟต์แวร์มีความสำคัญมากขึ้น สำหรับสมาร์ทโฟน เนื่องจากไม่มีเลนส์ ดังนั้น เราจึงเห็นการเพิ่มขึ้นของการถ่ายภาพด้วยคอมพิวเตอร์ ที่พยายามจำลองการซูมด้วยเลนส์”

หรือกล่าวอีกในหนึ่ง คือ สมาร์ทโฟนระดับสูงมีกล้องเลนส์คู่เพิ่มมากขึ้น แต่ Google Pixel 5 ใช้เลนส์กล้องตัวเดียว พร้อมการถ่ายภาพด้วยคอมพิวเตอร์ เพื่อจำลองการซูมด้วยเลนส์ และเพิ่มเอฟเฟกต์ต่าง ๆ นั่นเอง

LiDAR และ time-of-flight (ToF) คืออะไร

AI camera คืออะไร

สมาร์ทโฟน iPhone 12 ซีรีส์ใหม่ ของ Apple มีเลเซอร์ LiDAR และสแกนเนอร์ ซึ่ง LiDAR ย่อมาจากคำว่า Light Detection and Ranging ใช้เลเซอร์ในการคำนวณระยะทาง และความลึกที่แน่นอน

โดยทั่วไป จะพบในเครื่องดูดฝุ่นแบบหุ่นยนต์ และวันหนึ่งจะสามารถใช้รถยนต์ไร้คนขับได้ สำหรับการถ่ายภาพด้วย iPhone ส่วนใหญ่จะใช้เพื่อปรับปรุงความเร็วในการโฟกัสอัตโนมัติ โดยเฉพาะในที่แสงน้อย

โดยกล้อง ToF ใช้แสงอินฟราเรด เพื่อสร้างแผนที่ความลึกของสภาพแวดล้อมโดยรอบด้วยความเร็วแสง หลังจากที่วัตถุในองค์ประกอบได้รับการแมปความลึกแล้วเท่านั้น ซอฟต์แวร์ AI จะสร้างรูปลักษณ์ ‘bokeh blur’ โดยทำให้พื้นหลังของภาพพร่ามัว

“กล้อง ToF บนสมาร์ทโฟนช่วยให้อุปกรณ์แยกวัตถุต่าง ๆ ได้” ซึ่งบริษัท Infinix เพิ่งเปิดตัวสมาร์ทโฟนซีรีส์ Hot 10S พร้อมฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ดังกล่าว อธิบาย

ตัวอย่างเช่น เมื่อถ่ายภาพบุคคลในที่สาธารณะ กล้อง ToF จะสามารถรับรู้ได้ว่าบุคคลนั้นไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของฝูงชน “สิ่งนี้ทำให้ง่ายต่อการเพิ่มเอฟเฟกต์ bokeh ให้กับแบ็คกราวด์ของภาพ” ส่วนประเด็นหลัก คือ กล้อง ToF สามารถช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมวิธีแสดงวัตถุในรูปภาพได้มากขึ้นนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม AI กำลังเปลี่ยนการแก้ไขภาพอย่างรวดเร็ว แต่เพิ่งจะเริ่มต้น ต่อไปจะเป็นการคาดเดาของใคร ๆ แต่ก็มีคำใบ้ การวิจัยของ Google และ University of California Berkeley ได้ตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับเทคนิค AI ใหม่ของพวกเขา ซึ่งสามารถขจัดเงาที่ไม่ต้องการออกจากสแนปชอตในสภาพแสงที่ไม่เหมาะ

ความก้าวหน้าอีกประการหนึ่งที่นำโดย AI คือ ‘วิดีโอตอนกลางคืน’ ในขณะที่ ‘โหมดกลางคืน’ ได้รับความนิยมอย่างมาก สำหรับกล้องสมาร์ทโฟนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

แต่วิดีโอในเวลากลางคืนยังคงน่าผิดหวัง คาดหวังว่าจะเปลี่ยนแปลง สมาร์ทโฟนMi 11 ของ Xiaomi – ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 888 ของ Qualcomm (ซึ่งมีหน่วยประมวลผลประสาท) โดยรองรับโหมด ‘วิดีโอกลางคืน’ ของ BlinkAI ทำงานโดยใช้อัลกอริธึมการเรียนรู้ของเครื่องกับเฟรมวิดีโอที่มีเสียงดัง

คาดว่าองค์ประกอบจะเปลี่ยนไปเช่นกัน อันเป็นผลโดยตรงจากความละเอียดที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กล้องรุ่นล่าสุดจาก Sony, Canon และ Nikon ทั้งหมดถ่ายที่ 8K ที่ 30 เฟรมต่อวินาที

ดังนั้น เราจึงสามารถถ่ายทำแล้วปล่อยให้ AI เลือกและจัดเฟรมช่วงเวลาที่ดีที่สุดใหม่” Abribat กล่าว ว่าสิ่งที่มีอยู่แล้วเกิดขึ้นในโลกของ360 องศากล้อง

ความละเอียดก้าวหน้าไปอีกขั้น อนาคตของ AI และการถ่ายภาพส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ ไม่ใช่ฮาร์ดแวร์ “ในขณะที่สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ได้รับการพัฒนา

การมุ่งเน้นที่การปรับปรุงคุณภาพของฮาร์ดแวร์กล้องจะกลายเป็นส่วนเล็กๆ ของสมการ และจะถูกแทนที่ด้วยความก้าวหน้าในซอฟต์แวร์ AI” Wang กล่าว เขาคิดว่ากล้องสมาร์ทโฟนที่ติดตั้ง AI สามารถไล่ตามหรือแซงกล้องระดับไฮเอนด์ที่มีอยู่ได้

AI อาจเป็นคำที่เกินจริง และมักเป็นการจดตัววเลขสำหรับซอฟต์แวร์ขั้นสูงล่าสุดที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แต่ AI ยังมีการพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งจะมีการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ทั้งสำหรับซอฟต์แวร์ และสำหรับช่างภาพ ทำให้ผู้ที่ชอบถ่ายรูปได้มีรูปภาพที่สวย คมชัด และมีประสิทธิภาพอย่างมืออาชีพ

Credit

อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม